[TH TRANS] 090802 สัญญาญี่ปุ่นของดงบังชินกิ

เป็นที่รู้กันว่าสมาชิกทั้งสามของดงบังชินได้ได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องการยับยั้งสัญญาผูกขาดและการควบคุมจากบริษัทเอสเอ็มเอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังได้ส่งคำร้องเพื่อรักษาสิทธิ์ในการเรียกดูเอกสารหลักฐานที่ทางต่างๆด้วย

คำร้องเพื่อรักษาสิทธิ์ในการเรียกดูเอกสารหลักฐานหมายถึง “สมุดบัญชีต่าง สัญญา ใบเสร็จ ใบแจ้งโอน หรือเอกสารหลักฐานอื่นๆที่จะช่วยให้สามารถคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของผู้ร้องขอ” และสิ่งนี้ได้ใช้ในการคำนวณรายได้ที่แท้จริงของดงบังชินกิหามาได้


ข้อเท็จจริงที่พบเป็นที่น่าตกใจว่าสมาชิกของดงบังชินกิไม่เคยได้รับรู้เนื้อหาภายในสัญญาที่ได้เซ็นไว้กับทางญี่ปุ่นเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดข้อโต้แย้งมากขึ้นไปอีก

ดงบังชินกิได้เซ้นสัญญากับบริษัทเอเว็กส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในปี2005 โดยผ่านทางบริษัทเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนท์และได้ทำงานให้กับทั้งสองต้นสังกัดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ดี จนถึงตอนนี้ สมาชิกดงบังชินกิเองก็ยังไม่รู้ว่าสัญญาที่ทั้งสองบริษัทเขียนขึ้นนั้นเป็นเช่นไรและรายได้ของพวกเขาถูกจัดสรรอย่างไรในประเทศญี่ปุ่น

ตัวแทนทางกฎหมายของทั้งสามคนได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนักข่าวว่า “ตั้งแต่ดงบังชินกิเริ่มทำงานในประเทศญี่ปุ่น พวกเขาไม่เคยได้รับข้อมูลใดๆเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ที่ได้รับหรือแม้กระทั่งเนื้อหาของสัญญาว่ามีอะไรบ้าง”เขายังกล่าวอีกว่า “เราได้พยายามบอกทางต้นสังกัดทั้งสองอยู่หลายครั้งว่าสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและได้พยายามโน้มน้าวให้ทั้งสองต้นสังกัดเปิดเผยเนื้อหาของข้อสัญญาให้ดงบังชินกิได้รับรู้ แต่ทั้งสองก็เพิกเฉย” และ “สมาชิกเองได้ตั้งใจทำงานให้กับเอเว็กส์โดยไม่รู้เลยว่าพวกเขาต้องทำงานอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอะไรบ้าง”

บริษัทที่ปรึกษากฎหมายเซจงซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินคดีความให้กับดงบังชินกิได้ให้ข้อมูลแก่นักข่าวเกี่ยวกับปัญหาการจัดสรรรายได้ที่ไม่เป็นธรรมและความจริงใจที่มีต่อสมาชิก ทางที่ปรึกษากฎหมายยังได้กล่าวอีกว่า “ทางเราไม่ได้มองข้ามแนวคิดที่จะยื่นฟ้องค่าตอบแทนในคราวต่อไป”
ทางบริษัทเอเว็กส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่รับผิดชอบกิจกรรมต่างๆของดงบังชินกิในประเทศญี่ปุ่นได้เขียนในเว็บไซต์ทางการของตัวเองเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมว่า ดงบังชินกิจะยังทำกิจกรรมต่างๆที่ได้ระบุไว้แล้วโดยไม่คำนึงถึงคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่แต่อย่างใด


อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางเอสเอ็มได้ออกมาโต้กลับว่า “ดงบังชินกิมีรายได้ทั้งหมด 11,000 ล้านวอน นับตั้งแต่เดบิวต์จนถึงกรกฎาคมปี 2009 (t/n: พี่อ้อเช็คอีกทีนะ 11+พันล้าน) (เป็นเงินปันผล 9.2 พันล้านวอน บวกกับเงินที่ให้ล่วงหน้าอีก 1.77พันล้านวอน) ดงบังชินกิเองก็ได้รับสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากบริษัทหลายชิ้นแม้ว่าทางเอสเอ็มจะประสบปัญหากับภาวะขาดทุนในช่วง 4 ปีหลังจากที่ดงบังชินกิเดบิวต์ก็ตาม นอกจากส่วนแบ่งที่ได้รับจากบริษัทแล้วยังมีรายได้ที่มาจากการถ่ายแฟชั่น ออกงานอีเวนต์ รวมไปถึงการถ่ายแบบต่างๆด้วย

ขณะสมาชิกทั้งสามคนกล่าวว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากสัญญา ทางเอสเอ็มได้โต้ว่า “ทางเราได้ปรึกษากับพวกเขาในเรื่องสุขภาพและตารางการทำงานก่อนที่จะผ่านร่างสัญญานี้”ส่วนเรืองบริษัทเครื่องสำอางนั้น เอสเอ็มกล่าวว่า “ถ้าพิจารณากรณีนี้ก็มีเหตุผลที่สำคัญอยู่ เห็นได้ชัดว่ามีสมาชิกเพียง 3 คนที่มีส่วนข้องเกี่ยวกับกรณีนี้ พวกเขาต้องการลดการเสียภาพลักษณ์และความเสียหายที่จะเกิดกับตัวเองอย่างเร็วที่สุดด้วยแผนการนี้ เพราะทางบริษัทเครื่องสำอางจะใช้ภาพลักษณ์ของพวกเขา(ในฐานะศิลปิน)ในการทำการตลาดและร่วมงานต่างๆของบริษัทดังกล่าว”
นอกจากนี้ “จากFTC ไม่ได้มีข้อกำหนดที่ว่าศิลปินไม่สามารถเซ็นสัญญาที่มีอายุเกินกว่า 7 ปีได้ และไม่ได้มีข้อกำหนดใดเป็นพิเศษที่จะจำกัดการโปรโมทศิลปินในต่างประเทศ เราได้ทำการแก้ไขสิทธิ์ขาดต่างๆในสัญญาเป็นจำนวน 5 ครั้ง หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาไป มี 2 ครั้งที่ได้กล่าวถึงค่าตอบแทนหลังจากที่ได้ตรวจสอบกับทางFTCแล้ว ส่วนอีก 3 ครั้งเป็นการกล่าวถึงเรื่องอัตราส่วนแบ่งผลกำไรที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมากราคม 2004 กุมภาพันธ์ 2007 และ กุมภาพันธ์ 2009

เอสเอ็มได้กล่าวปิดท้ายว่า “ทางเราจะแก้ปัญหานี้กับสมาชิกทั้งสามเกี่ยวกับการถอดถอนสัญญาและการเผชิญหน้าทางกฎหมายให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

Eng version HERE

***************************************

Source: oh my news + DNBN

Translation: jeeelim5 @ iscreamshinki.net

Shared by: iscreamshinki.net

Do not remove/add on any credits

----------------------------------------------------

TH Trans: Me-'N-yOO@welovetvxq-jj